เริ่มจาก 1 องศาเซลเซียส
- มหาสมุทรอาร์กติกจะปราศจากน้ำแข็งเป็นเวลา 6 เดือน
- กระแสน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นส่งผลให้หลายพันครัวเรือนบริเวณอ่าวเบงกอลจมอยู่ใต้น้ำ
- พายุเฮอริเคนอาจเข้าโจมตีมหาสมุทรแอตแลนติกตอนใต้
- เกิดความแห้งแล้งอย่างรุนแรงทางภาคตะวันออกของสหรัฐอเมริกาส่งผลให้ตลาดขาดแคลนข้าวและเนื้อสัตว์
- พื้นที่ด้านฝั่งตะวันออกของสหรัฐอเมริกาจะเปลี่ยนเป็นทะเลทราย
- วิถีเกษตรกรรมในอังกฤษจะเกิดการเปลี่ยนแปลง ไร่องุ่นกว่า 400 แห่ง แหล่งผลิตไวน์รสเลิศจะได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศที่ร้อนขึ้น
2 องศาเซลเซียส
- ธารน้ำแข็งในกรีนแลนด์จะค่อยๆ ละลายหายไป "จาคอบชวาน"ธารน้ำแข็งใหญ่ที่สุดของกรีนแลนด์กลายเป็นธารน้ำแข็งที่เคลื่อนที่เร็วที่สุดในโลก
- เมื่อน้ำแข็งในทะเลลดน้อยลง หมีขั้วโลกเหนือจะตกอยู่ในสภาวะอันตรายและเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์
- แมลงอาจอพยพไปพื้นที่ใหม่ๆ เช่น ด้วงสนอาจทำลายป่าไม้ทางตอนเหนือของสหรัฐอเมริกา
- ขั้วโลกเหนือของประเทศแคนาดา บริเวณพื้นราบจะมีป่าไม้จากเดิมที่ไม่เคยมีมาก่อน
- ประเทศตูวาลูในหมู่เกาะแปซิฟิก อาจจมอยู่ใต้น้ำ เนื่องจากระดับน้ำทะเลสูงขึ้น
- ระบบนิเวศทางทะเลจะเกิดผลกระทบ ทำให้ปะการังเขตร้อนตาย
3 องศาเซลเซียส
- ป่าอะเมซอนจะแห้งเหือดและเกิดไฟป่าซ้ำซาก ทำให้ผืนป่าอะเมซอนเสียหายเป็นบริเวณกว้าง ก่อให้เกิดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ตัวการโลกร้อนหลายร้อนตันขึ้นสู่บรรยากาศโลก
- ธารน้ำแข็งบนเทือกเขาแอลป์ละลายจนหมดสิ้น
- ทะเลเมดิเตอร์เรเนียนในฝั่งทวีปยุโรปจะแห้งเหือดในฤดูร้อน
- ปรากฏการณ์แอลนีโญ่จะทวีความรุนแรง เกิดสภาวะอากาศวิปริตแปรปรวน
- พายุเฮอริเคนจะทวีความรุนแรงเป็นระดับ 6 ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
- นักวิทยาศาสตร์เห็นพ้องต้องกันว่าจะเกิดผลกระทบต่อการใช้ชีวิตของมนุษย์
4 องศาเซลเซียส
- แผ่นน้ำแข็งในมหาสมุทรแอนตาร์กติกตะวันตก อาจละลายและจมหายไปในทะเล ส่งผลให้ระดับน้ำในมหาสมุทรเพิ่มสูงขึ้น เกิดปัญหาน้ำท่วมรุนแรงบริเวณพื้นที่สามเหลี่ยมปากแม่น้ำที่มีผู้คนอาศัยอยู่อย่างหนาแน่น ทำให้ประเทศต่างๆ ได้รับความเสียหาย เช่น บังกลาเทศ และอียิปต์ ส่วนเมืองเวนิชทั้งเมืองจมอยู่ใต้บาดาล
- แม่น้ำคงคาในประเทศจีน เนปาลและอินเดีย จะเอท่วมล้นครั้งยิ่งใหญ่และผลพวงการละลายของธารน้ำแข็งในเทือกเขาหิมาลัยที่คาดว่าจะละลายหมดในปี 2578 จะเกิดปัญหาการขาดแคลนน้ำ อาหาร และที่อยู่อาศัยตามมา
- ประเทศแคนาดาทางตอนเหนือจะกลายเป็นพื้นที่เกษตรกรรมที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
5 องศาเซลเซียส
- แผ่นดินที่เคยมีมนุษย์อาศัยอยู่ทางตอนเหนือและใต้ของโลกจะกลายเป็นเขตอบอุ่นและกลายเป็นที่อยู่อาศัยของมนุษย์ในอนาคต
- มหานครของโลก เช่น ลอสแองเจลิส กรุงไคโร ลิมาและบอมเบย์ ที่เคยปกคลุมด้วยหิมะและน้ำแข็งบางช่วงเวลา จะไม่มีหิมะตกอีกต่อไป
- ผู้คนหลายสิบล้านคนจะกลายเป็นผู้อพยพลี้ภัย อันเนื่องมาจากสภาพอากาศและความขัดแย้ง อันเกิดจากการแย่งชิงทรัพยากรธรรมชาติ
และ 6 องศาเซลเซียส
- โลกของเราจะมีสภาพคล้ายคลึงกับยุคครีเตเชียส ซึ่งโลกมีอุณหภูมิสูงมาก เหมือนที่เคยเกิดขึ้นเมื่อประมาณ 65 - 144 ล้านปีก่อน
- น้ำทะเลมีสีฟ้าใส เพราะไม่หลงเหลือวงจรห่วงโซ่อาหาร และสารอาหารในทะเลอีกแล้ว
- ทะเลทรายจะยึดครองพื้นที่ในทวีปต่างๆ ทั่วโลก
- ภัยพิบัติทางธรรมชาติกลายเป็นเรื่องปกติ เมืองใหญ่ๆ เกิดภาวะอุทกภัยจนผู้คนต้องอพยพย้ายถิ่นฐาน
- มหาสมุทรอาร์กติกจะปราศจากน้ำแข็งเป็นเวลา 6 เดือน
- กระแสน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นส่งผลให้หลายพันครัวเรือนบริเวณอ่าวเบงกอลจมอยู่ใต้น้ำ
- พายุเฮอริเคนอาจเข้าโจมตีมหาสมุทรแอตแลนติกตอนใต้
- เกิดความแห้งแล้งอย่างรุนแรงทางภาคตะวันออกของสหรัฐอเมริกาส่งผลให้ตลาดขาดแคลนข้าวและเนื้อสัตว์
- พื้นที่ด้านฝั่งตะวันออกของสหรัฐอเมริกาจะเปลี่ยนเป็นทะเลทราย
- วิถีเกษตรกรรมในอังกฤษจะเกิดการเปลี่ยนแปลง ไร่องุ่นกว่า 400 แห่ง แหล่งผลิตไวน์รสเลิศจะได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศที่ร้อนขึ้น
2 องศาเซลเซียส
- ธารน้ำแข็งในกรีนแลนด์จะค่อยๆ ละลายหายไป "จาคอบชวาน"ธารน้ำแข็งใหญ่ที่สุดของกรีนแลนด์กลายเป็นธารน้ำแข็งที่เคลื่อนที่เร็วที่สุดในโลก
- เมื่อน้ำแข็งในทะเลลดน้อยลง หมีขั้วโลกเหนือจะตกอยู่ในสภาวะอันตรายและเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์
- แมลงอาจอพยพไปพื้นที่ใหม่ๆ เช่น ด้วงสนอาจทำลายป่าไม้ทางตอนเหนือของสหรัฐอเมริกา
- ขั้วโลกเหนือของประเทศแคนาดา บริเวณพื้นราบจะมีป่าไม้จากเดิมที่ไม่เคยมีมาก่อน
- ประเทศตูวาลูในหมู่เกาะแปซิฟิก อาจจมอยู่ใต้น้ำ เนื่องจากระดับน้ำทะเลสูงขึ้น
- ระบบนิเวศทางทะเลจะเกิดผลกระทบ ทำให้ปะการังเขตร้อนตาย
3 องศาเซลเซียส
- ป่าอะเมซอนจะแห้งเหือดและเกิดไฟป่าซ้ำซาก ทำให้ผืนป่าอะเมซอนเสียหายเป็นบริเวณกว้าง ก่อให้เกิดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ตัวการโลกร้อนหลายร้อนตันขึ้นสู่บรรยากาศโลก
- ธารน้ำแข็งบนเทือกเขาแอลป์ละลายจนหมดสิ้น
- ทะเลเมดิเตอร์เรเนียนในฝั่งทวีปยุโรปจะแห้งเหือดในฤดูร้อน
- ปรากฏการณ์แอลนีโญ่จะทวีความรุนแรง เกิดสภาวะอากาศวิปริตแปรปรวน
- พายุเฮอริเคนจะทวีความรุนแรงเป็นระดับ 6 ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
- นักวิทยาศาสตร์เห็นพ้องต้องกันว่าจะเกิดผลกระทบต่อการใช้ชีวิตของมนุษย์
4 องศาเซลเซียส
- แผ่นน้ำแข็งในมหาสมุทรแอนตาร์กติกตะวันตก อาจละลายและจมหายไปในทะเล ส่งผลให้ระดับน้ำในมหาสมุทรเพิ่มสูงขึ้น เกิดปัญหาน้ำท่วมรุนแรงบริเวณพื้นที่สามเหลี่ยมปากแม่น้ำที่มีผู้คนอาศัยอยู่อย่างหนาแน่น ทำให้ประเทศต่างๆ ได้รับความเสียหาย เช่น บังกลาเทศ และอียิปต์ ส่วนเมืองเวนิชทั้งเมืองจมอยู่ใต้บาดาล
- แม่น้ำคงคาในประเทศจีน เนปาลและอินเดีย จะเอท่วมล้นครั้งยิ่งใหญ่และผลพวงการละลายของธารน้ำแข็งในเทือกเขาหิมาลัยที่คาดว่าจะละลายหมดในปี 2578 จะเกิดปัญหาการขาดแคลนน้ำ อาหาร และที่อยู่อาศัยตามมา
- ประเทศแคนาดาทางตอนเหนือจะกลายเป็นพื้นที่เกษตรกรรมที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
5 องศาเซลเซียส
- แผ่นดินที่เคยมีมนุษย์อาศัยอยู่ทางตอนเหนือและใต้ของโลกจะกลายเป็นเขตอบอุ่นและกลายเป็นที่อยู่อาศัยของมนุษย์ในอนาคต
- มหานครของโลก เช่น ลอสแองเจลิส กรุงไคโร ลิมาและบอมเบย์ ที่เคยปกคลุมด้วยหิมะและน้ำแข็งบางช่วงเวลา จะไม่มีหิมะตกอีกต่อไป
- ผู้คนหลายสิบล้านคนจะกลายเป็นผู้อพยพลี้ภัย อันเนื่องมาจากสภาพอากาศและความขัดแย้ง อันเกิดจากการแย่งชิงทรัพยากรธรรมชาติ
และ 6 องศาเซลเซียส
- โลกของเราจะมีสภาพคล้ายคลึงกับยุคครีเตเชียส ซึ่งโลกมีอุณหภูมิสูงมาก เหมือนที่เคยเกิดขึ้นเมื่อประมาณ 65 - 144 ล้านปีก่อน
- น้ำทะเลมีสีฟ้าใส เพราะไม่หลงเหลือวงจรห่วงโซ่อาหาร และสารอาหารในทะเลอีกแล้ว
- ทะเลทรายจะยึดครองพื้นที่ในทวีปต่างๆ ทั่วโลก
- ภัยพิบัติทางธรรมชาติกลายเป็นเรื่องปกติ เมืองใหญ่ๆ เกิดภาวะอุทกภัยจนผู้คนต้องอพยพย้ายถิ่นฐาน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น